🇹🇭💗🦄 “เมื่อ Flash Express และ คมสันต์ ลี กลายเป็น ยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทยไทย เราคนไทยจะได้อะไรจากสิ่งนี้? ”
เช้านี้ผมได้รับเกียรติจาก น้อง “กีตาร์ วรินท์มาศ ปัญญาดี” และ “พี่โก้ รัชชพล เหล่าวานิช” ให้เกียรติเชิญไปออกรายการสด Halftime Report, CNBC ออกอากาศทางช่อง TV digital New18 (JKN18) เพื่อถามความเห็นต่อกรณี #FlashExpress ก้าวขึ้นเป็น Unicorn ตัวแรกของประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย และ DURIAN ที่เชี่ยวชาญในการสร้างระบบนิเวศน์นวัตกรรมและสตาร์ทอัพ ประเด็นความเห็นว่า "วงการสตาร์ทอัพไทย หลังได้ยูนิคอร์นตัวแรก" สัมภาษณ์สดร่วม 20 นาที เวลาผ่านไปไวเหมือนจรวด มีเนื้อหาหลายอย่างที่อยากสื่อสารแต่ด้วยเวลาอันจำกัด เลยเขียนมาแบ่งปันในวงกว้าง ว่า 5 ประโยชน์ที่คนไทยได้รับ จากการมี Unicorn ตัวแรกดังนี้
“5ประโยชน์ที่คนไทยได้รับ จากการมี Unicorn ตัวแรก”
🇹🇭📌 ข้อที่1: “Flash Express ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงใหญ่ ที่จะทำให้ประเทศไทย มี Unicorns เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-5 ตัว ภายใน 5 ปี”
สำหรับผมข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะมันทำให้คนไทยก้าวผ่าน “กำแพงที่มองไม่เห็น” ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจใดๆ สิ่งสำคัญที่ต้องใช้คือ “ความรู้ (Knowledge)”, “แรงบันดาลใจ (Inspiration)” และ “การลงมือทำ (Implementation)” การที่คุณคมสันต์ ลี นำ Flash Express ก้าวขึ้นสู่Unicorns ได้ โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี ด้วย ฝ่าข้อจำกัดทุกอย่าง ทั้งฐานะทางบ้านที่เป็นคนธรรมดา ที่มีต้นทุนชีวิตอาจน้อยกว่าคนหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี่ซะอีก คมสันต์ เป็นคนไทยที่เกิดและเติบโตบนดอยช้าง ดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ด้วยครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่แยกทางกัน จึงต้องออกมาเพื่อดูแลส่งเสียตัวเอง เรียนจบปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง แต่ด้วยความฝันที่ชัด คาแรคเตอร์ที่ไม่ยอมแพ้ รู้ว่าตัวเองเก่งและสนใจอะไร สื่อสารภาษาจีนได้คล่องแคล่ว และใช้เครือข่ายเป็น จึงเริ่มสร้างธุรกิจตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน จบมหาวิทยาลัยมาด้วยการมีเงินเก็บกว่า 10 ล้านบาทและเริ่มต้นทำ Flash Express ในวัย 25 ปี ด้วยเงินตัวเองจากการเจอวิกฤติและบทเรียนในธุรกิจ ก่อนใช้เวลา 4 ปี ทำให้ Flash Express กลายเป็น Unicorns ตัวแรกของประเทศไทย ด้วยมูลค่าธุรกิจ (Valuation) สู่กว่า 30,000 ล้านบาท ในวัยที่เค้ายังอายุเพียง 29 ปี
“กำแพง 10 วินาที ของ Startup ไทย ถูกทำลายลง”
ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะสร้าง Momentum สำคัญ เปรียบเทียบกับวงการกรีฑาฯ ที่ก่อนหน้านี้สถิติการวิ่งระยะ 100 เมตร ไม่ว่าจะเป็นแข่งขันชิงแชมป์โลก หรือกีฬาโอลิมปิค นับตั้งแต่ Summer Olympics ปี 1896 เป็นต้นมา สถิติที่ดีที่สุดที่มนุษย์บทโลกนี้ทำได้ คือมากกว่า 10 วินาที จนมีความเชื่อกันว่า ความสามารถของมนุษย์ถูกธรรมชาติกำหนดไว้แค่นั้น วิ่ง 100 เมตร ให้เร็วกว่า 10 วินาทีเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ จนกระทั่ง 72 ปี หลังจากการแข่งขัน Olympic ครั้งแรก ในการแข่งขัน Olympics ที่ Mexico City ปี 1968 จิม ไฮน์ส (Jim Hines) ตำนานลมกรดชาวอเมริกันเป็นชายคนแรกที่ได้ทลายกำแพง 10 วินาที ได้สำเร็จ โดยสามารถทำสถิติวิ่ง 100 เมตรที่ 9.95 วินาที และนั่นคือ “จุดเปลี่ยนความเชื่อของมนุษย์” หลังจากที่จิม ไฮน์ส ทำลายกำแพง 10 วินาทีได้ กลับกลายเป็นว่า นับจนถึงปัจจุบัน “สถิติโลกที่ต่ำกว่า 10 วินาที” ถูกทำลายซ้ำแล้ว ซ้ำอีกนับสิบๆ ครั้ง จากนักวิ่งแชมป์โลก 10 คน จนปัจจุบัน สถิติโลกคือ 9.572 วินาที โดยยูเซน โบลท์ (Usain Bolt) ที่ต่ำกว่า 10 วินาทีมากนัก… Startup ไทยก็เช่นกัน
“แรงบันดาลใจ ในการทำลายกรอบความคิดเดิมของ Startup ไทย”
ย้อนกลับมาที่ “คมสันต์ ลี” สิ่งนี้จะทำให้เหล่า Startup ทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นใหญ่ของไทย กลับมาคิดจริงจังว่า “เราทำเต็มที่ ได้เท่านี้จริงๆ รึ” ในเมื่อเพดานที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะด้วยข้ออ้าง รึข้อจำกัดใดๆ ทุกทำลายด้วยคนธรรมดา ที่พยายามอย่างสุดความสามารถในการนำทุกสิ่งที่ตนมี มาใช้ให้เกิดศักยภาพสูงสุด ด้วยการทุ่มแบบ “หมดหน้าตัก” และเมื่อเค้าทำได้ มันจะเกิดทั้งคำถาม ความหวัง ความท้าทาย และแรงบันดาลใจว่า ถ้าคนหนี่งคนทำได้ เราก็ทำได้เช่นกัน “If one man can do, we can do.” สิ่งนี่ละคือสิ่งที่สำคัญมาก และผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นจริงๆ ว่าภายใน 5 ปี จะเกิด Unicorns ในไทย 3-5 ตัวได้แน่ๆ
🇹🇭📌 ข้อที่2: “Think Global from Day 1: ไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่ทุนไทย … ถ้าคิดใหญ่และทำเป็น”
อีกข้อจำกัดที่ถูกทำลายลงคือ “การถูกตีตรา ว่าถ้าทำ Startup ในไทย ต้องได้รับการยอมรับจากคนใด กองทุนไหน องค์กร หรือหน่วยงานใด ไม่งั้นจะไม่สามารถเติบโตได้ จบสิ้นลง”
Flash Express “เริ่มต้น” ด้วยไม่ได้การพึ่งเงิน VC ใดๆ ในประเทศไทย หากติดตามบทสัมภาษณ์ของ “คมสันต์ ลี” จะเห็นว่า เค้าคิดภาพธุรกิจใหญ่ และรู้ว่าศักยภาพมันใหญ่ และไม่ใช่แค่ธุรกิจขนส่งสินค้า แต่เป็น e-Commerce ครบวงจร (ปัจจุบันยังมีแผนขยายไปอีกมาก) ดังนั้นบางทีการคุยกับแค่กองทุนในประเทศไทย อาจไม่เพียงพอ จึงเลือกเปิดโอกาสใหญ่ให้ตัวเอง โดยระดมทุนจากทั้งจีน และสหรัฐอเมริกา ในรอบแรกๆ ก่อนที่รอบ Series D และ E จะเปิดให้นักลงทุนและกองทุนของไทยลง จนกลายเป็น Unicorns ตัวแรกของไทย เรื่องนี้จะช่วยทลายกรอบความคิด และเป็นประโยชน์กับสังคมไทย โดยเฉพาะในธุรกิจนวัตกรรมและ Startup ว่า “หากเราคิดใหญ่ มีผลลัพธ์ มีเครือข่าย แม้ใครหน้าไหนปฏิเสธ ไม่สนใจ แต่เราไม่ยอมแพ้ และเดินต่ออย่างมีกลยุทธ์” ก็มีโอกาสสำเร็จได้เช่นกัน
🇹🇭📌ข้อที่3: “Timing เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าทุกฝ่ายเข้าใจ และส่งเสริม ประเทศไทยก้าวกระโดดได้จากจุดนี้ทันที”
หลายคนเข้าใจดีว่าการเร่งพัฒนา และกระตุ้นเศรษฐกิจ ของประเทศด้วยดิจิทัล เทคโนโลยี และนวัตกรรมได้ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องส่งเสริม แต่มันจะดีกว่านั้นถ้าเข้าใจว่า “เวลานี้ คือ Timing ในการสนับสนุนที่สำคัญที่สุด”
อ้างอิงจาก Bill Gross, Co-founder ของ Idea Lab ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Startup มากมาย ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดในการ Run ธุรกิจ Startup ให้สำเร็จคือ “Timing” ส่วนเรื่องอื่นๆ ทั้งเรื่องทีม (Team & Execution), ความคิด (Idea), แผนธุรกิจ(Business Model) และ เงินทุน (Funding) ล้วนเป็นเรื่องรอง
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย หากเราทุกคนที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ ผู้กำหนดนโยบาย (Regulator & Policy Maker), Startup Founder, พันธมิตรทางธุรกิจ (Business Partner), นักลงทุน (Angel, VB, VC, CVC, Government) และ ลูกค้า (Customer) เข้าใจว่า นี่คือ “ช่วงเวลาแห่งการก้าวกระโดดของประเทศไทย” และใช้แรงเหวี่ยงนี้ กำหนด และเร่งนโยบายในการสร้างเมืองไทยเป็น Hub ของ Startup และนวัตกรรมจากทั่วโลก ออกนโยบายที่ดึงดูดทั้งทุน (Investment) และ ผู้คน (Telent) ที่มีความสามารถหลากหลาย ที่ล้วนมีตัวอย่างจากทั่วโลก ใช้สเน่ห์ของความเป็นไทยที่มีมากมายมาใช้ ลดข้อจำกัดและอุปสรรคลง ที่เชื่อว่าพวกเราหลายคน หลายองค์กรเคยเข้าไปนำเสนอ ทั้งการทำ National Sandbox ในภูมิภาคต่างๆ, สิทธิประโยชน์การลงทุนในหลากรูปแบบทั้งด้านภาษี ที่ดิน Facilities และการสนับสนุน ให้คนที่เข้าใจเป็นผู้ดำเนินการแบบจริงจัง ภาครัฐเป็นเพียงผู้สนับสนุนที่จะทำให้เกิดได้ เรื่องนี้จะเป็นการ “พลิกวิกฤติ เป็นโอกาส ให้ประเทศได้อย่างจริงๆ”
🇹🇭📌ข้อที่4 : “ไม่ใช่แค่ e-Commerce แต่ Sectors อื่นๆ จะเติบโตด้วยเช่นกัน”
การที่คมสันต์ ลี นำ Flash Express ขึ้นเป็น Unicorns นั้น ไม่ใช่เพียงกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันและเติบโตในสายธุรกิจ e-Commerce แต่มันจะส่งผลไปถึง Startup ในทุก Sectors โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าประเทศไทย จะมีโอกาสเกิด Unicorns ได้ในหลาย Sector ทั้ง Fintech, Health Tech, AgriTech, EdTech, Life Style and Service Industries และ DeepTech กลุ่มเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มศักยภาพสูงในการเติบโต ที่เรามีพื้นฐานความแข็งแรง, โอกาสในการพัฒนา หรือช่องว่างให้เติมเต็ม เพียงแต่ต้องเกิดการผลักดันสนับสนุนอย่างเป็นระบบ จากทุกภาคส่วน และต้องทำเป็น ใช้โอกาสนี้ ในการ “รวม Dream Team ประเทศไทย” สร้างให้เกิดแรงกระเพื่อมใหญ่จริงๆ แก่ทั้ง Startup, SMEs และสังคมกันครับ
🇹🇭📌 ข้อที่5 : ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีดีพอ เป็น 1 ใน 33 ประเทศ ของโลกที่มี Unicorns
จำนวน Unicorns ทั่วโลกในปัจจุบัน ไม่นับตัวที่ Exit ไปแล้ว มีอยู่ราว 495 บริษัท (ข้อมูลจาก CB Insights) กระจายอยู่ใน 32 ประเทศทั่วโลก โดยมี Top5 คือ United States (124), China (104), India (52), UK (16), Israel (15) การที่ คมสันต์ ลี สามารถนำพา Flash Express กลายเป็น Unicorns ในวันนี้ ทำให้ไทย กลายเป็น 1 ใน 33 ประเทศ (จาก 195 ประเทศทั่วโลก) ซึ่งถือว่าเป็นหนี่งในประเทศชั้นนำของโลก ที่มีความน่าดึงดูใจต่อเงินทุนทั่วโลกขึ้นมาทันที ดูรายชื่อที่เหลือตามด้านล่างได้ครับ United States (124), China (104), India (52), UK (16), Israel (15), Brazil (12), France (12), South Korea (11), Sweden (11), Indonesia (8), Canada (7), Switzerland (5), Argentina (5), Hong Kong (4), Germany (4), Singapore (4), Portugal (3), Australia (2), Spain (2), Japan (2), Russia (2), Belgium (2), Turkey (2), Estonia (2), Luxembourg (2), Ukraine (2), UAE (2) and nine other countries (1 each).
จริงๆ ประเทศไทยมีศักยภาพสูงทั้งในแง่ของประชากร, สถานที่ตั้ง, การเข้าถึงเทคโลโลยี, ความสามารถในการแข่งขัน แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพัฒนา เช่นกฎระเบียบ, การควบคุม, การเข้าถึงแหล่งทุน, การคอร์รัปชัน และความสามารถในการบริหารจัดการแบบมีประสิทธิภาพ แต่เชื่อมั๊ยครับ ว่าขนาดประเทศไทย ยังไม่ได้ดึงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ เรายังเป็นหนึ่งใน 33 ประเทศชั้นนำของโลกได้ ถ้าเราเข้าใจและเร่งเครื่อง ภายใน 5 ปี ประเทศไทย สามารถก้าวขึ้นมาเป็น Top20 ของโลกหรือสูงกว่านั่นไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
“When the wind of change come, some people build walls others build windmills.”
เมื่อสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงโหมกระหน่ำ
บางคน สร้างกำแพง กันลม
บางคน สร้างกังหันลม ปั่นไฟ
เราจะเป็น ใครเราเลือกได้ ด้วยตัวเราเอง.
ปล.เพื่อให้ได้อรรถรสขึ้น ผมแนะนำให้ไปดูสัมภาษณ์ คมสันต์ ลี แห่ง Flash Express ใน The Standard ทั้ง 3 ตอน ตาม Link ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
บันทึกไว้ เพื่อแบ่งปันในวงกว้าง หากคิดว่าดีและมีประโยชน์
สามารถแบ่งปันต่อเพื่อนๆ กัลยาณมิตรต่อไปได้เลยครับ
ด้วยความปรารถนาดี
บอม โอฬาร วีระนนท์
- CEO and Co-founder, DURIAN
- CEO and Co-founder, Yak Green (ยักษ์เขียว)
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
- นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย
ดูบันทึกย้อนหลังได้ทาง 👇
📌www.bomolarn.com
📌www.tojo.news
📌www.duriancorp.com
#FlashExpress #คมสันต์ลี
#ประเทศไทยพัฒนาได้ถ้าร่วมใจกัน
Comments