วันนี้มาแวะซื้อของที่คลังเอมสตาร์ในฐานะผู้ใช้สินค้า โดยไม่ได้มีผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ ไม่ว่าในฐานะนักธุรกิจ, ที่ปรึกษา หรือตำแหน่งอื่นใด หลังจากไม่ได้แวะเวียนมาหลายปี พอเข้ามาที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ที่สวยงามมาก ออกแบบโดยพี่ยศ Somyot Techapuwapat พี่ชายคนเก่ง ความทรงจำสำคัญช่วงหนึ่งของชีวิตก็ย้อนกลับมา (ซื้อของวันนี้ใช้ Code ของพี่แจ็ค Jacky Nutthapong พี่ชายคนเก่งอีกคนซื้อ)
"เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราทำจะเชื่อมต่ออะไรได้บ้าง แต่เมื่อมองย้อนกลับมาจะเห็นมันชัดเจน"
บอกจากหัวใจว่า "ทักษะชีวิตมากมาย" ได้เรียนรู้ที่นี่
-ได้พบเจอเพื่อนๆ ดีๆ กัลยาณมิตรมากมาย ทั้งเพื่อนจากกลุ่ม Together Plus International ที่นำโดยหลิน Wachiraporn Unhaprasertkul และพี่เต้ย Pakorn Bunyaritthongchai ที่เรายังคบและรักกันมาจวบจนปัจจุบันแม้ไม่ได้มีผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ ต่อกันแล้ว และหลายคนได้กลายเป็นพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย
-ได้พบและทำงานกับคนระดับ Genius Padipark Pop Milindapradheep ที่ต่อให้ทุกวันนี้ เรามีโอกาสได้พบผู้คนในทุกระดับ จากนานาประเทศทั่วโลกก็ยังรู้สึกทึ่งว่า “ดีใจจัง ที่เราได้รู้จัก ร่วมทำงาน รักและช่วยเหลือกันและกัน โดยเริ่มต้นจากการให้ และเข้าใจจากหัวใจว่า ให้ก่อน ได้มากกว่า”
-ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “The Team” ที่จำได้ว่าตอนได้รับเลือกรู้สึกเลยว่าคำว่า “ความรับผิดชอบและพลังทีมมันสำคัญแค่ไหน”
-ได้รู้จักการสร้างทีมงานขนาดใหญ่ ที่นับเฉพาะใต้องค์กรเรามีเพื่อนพี่น้องกว่า 3,000 คน ใน 6 ประเทศ ขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยการเรียนรู้ และทำซ้ำอย่างเป็นระบบ หากเอ่ยชื่อทุกท่านคงไม่หมด แต่เก็บทุกคนไว้ในบันทึกความทรงจำดีๆ เสมอ
-ได้ฝึกลด ego ในตัวตน, ฝึกทักษะการขาย, Human Skills และการ Influence People ซึ่งสำคัญมากๆ ในการทำธุรกิจจริงๆ ซึ่งในกลุ่มของเรา เราต้องสามารถคุยได้กับคนในทุกระดับ ทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่ผู้กำหนดนโยบาย, ผู้นำเหล่าทัพ, นักการเมือง, ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่, นักธุรกิจทุกระดับ, ผู้บริหาร, พนักงาน, ลูกจ้างรายวัน, เกษตรกร, แพทย์, พยาบาล, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, พ่อค้า, แม่ค้า, พ่อครัว, นิสิต, นักศึกษา, พ่อบ้าน แม่บ้าน, คนขายบริการ, ชาวต่างชาติ ฯลฯ และที่สำคัญ เราต้องสามารถเปิดใจ หาจุดร่วม มองคนให้ออกอย่างรวดเร็วและจับจริตคนให้ได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้ล้วนไม่มีมหาวิทยาลัยที่ไหนสอน แต่มันมาจากประสบการณ์ชีวิตและการลงมือทำ
-ได้เรียนรู้เรื่อง Product และ Service มากมาย ที่ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำและได้เรียนรู้ เช่นการแต่งหน้า อาหารเสริม เครื่องกรองน้ำ อากาศ ฯลฯ การทดสอบสินค้าทุกประเภท สินค้าทุกชนิด ต้องรู้อย่างละเอียด และไม่ใช่รู้แค่ของตัวเอง ต้องรู้ไปถึงของ Players อื่นๆ ในตลาด สินค้าทดแทน และที่สำคัญต้องรู้ว่า “ผู้บริโภคต้องการอะไร ไม่ใช่เราอยากขายอะไร”
-ได้เรียนรู้การพัฒนาคน และสร้างวินัย ที่เราเชื่อจากหัวใจว่าคนทุกคนพัฒนาได้ ถ้าเค้าตั้งใจและอยากพัฒนา โดยใช้เครื่องมือหลากหลาย ผ่าน Center, รอบผู้นำ, Material ต่างๆ, งานเปิดโอกาส, งานแคมป์ การ Assign หน้าที่ และการลงมือทำด้วยกัน "ทำให้ดู สอนเค้าทำ ดูเค้าทำ ดูเค้าสอน" ซึ่งยังคงเป็น Basics ชั้นดีในการพัฒนาคน หลายสิ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับนวัตกรรมใหม่ๆ ในปัจจุบัน
-เรียนรู้การปิดการขาย การไล่ยอด การขุดพลังเฮือกสุดท้าย ทั้งสายลมระรอกสอง ระลอกสาม การให้และการรับความช่วยเหลือ พลังของความเป็นทีม
-ได้เรียนรู้ในการ Deal กับผู้คนต่างขั้ว ต่างค่าย การสร้างความมั่นใจให้ทีมงาน, การแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง และการจบการสนทนาทุกครั้งด้วยการทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่า “ได้อะไรเพิ่ม” และ “กลับไปด้วยความทรงจำที่ดี” แม้ว่าจะได้ร่วมธุรกิจกันหรือไม่ก็ตาม
-ได้ฝึก Presentation Skills ที่ต้องบอกว่า ต้องทำได้ในแทบทุกรูปแบบ ทุกสถานการณ์ ทั้งแต่ตัวต่อตัว, กลุ่มเล็ก, กลุ่มใหญ่, On Stage ทั้งหลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หรือหลักหมื่นคน และต้อง Hold คนให้อยู่ให้ได้ เป็นอีกพื้นฐานที่ต้องบอกว่า มีประโยชน์มาก ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจใดๆ ในอนาคต เพราะสุดท้าย ผู้นำทีี่ดี ต้องมีทักษะการเป็นนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม
-ที่สำคัญที่สุดคือ ได้พบกับ ทญ.ลพา วัชรศรีโรจน์ (คุณหมอลพา) Labha Watcharasriroj ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในต้นแบบชีวิตในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการทุ่มเท จริงจัง ลงรายละเอียด การมีหัวใจแห่งการให้ และความสามารถในการถ่ายทอดที่ออกมาจากหัวใจ การได้มีโอกาสทำงานทั้งในฐานะนักธุรกิจเอมสตาร์ในช่วงหนึ่งของชีวิต และในบทบาทที่ปรึกษาบริษัทในช่วงสั้นๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า และทำให้นับถือคุณหมอลพาในฐานะ “พี่สาวที่ผมเคารพรักจากหัวใจ”
“เรียนรู้จากอดีต และต่อยอดสู่อนาคต”
ในยุคหนึ่งเราทุกคน เคยสร้างตำนานมากมายหลายบทไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็ได้เรียนรู้บทเรียนอีกหลายบทเช่นกัน
-มีหลายสิ่งสำคัญมากกว่าธุรกิจมากนัก ใช้ชีวิตต้องรู้จักสมดุลในทุกมิติ แม้เวลาที่ผ่านไปจะแก้ไขเหตุการณ์ที่ผ่านเลยไม่ได้ แต่จะใช้บทเรียนที่ได้รับ พัฒนาอนาคตให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน
-มองกลับมาในวันนี้ ขอยกคำของพี่เตา บรรยง พงษ์พานิช ที่บอกว่าหัวใจในการสร้างองค์กร ที่คนอยากทำงานด้วยกับเรา ต้องมี 5 หลัก คือ 1.ได้เรียนรู้ 2.ได้ทำ 3.ได้ตังค์ 4.ได้มันส์ และ 5.ได้ภูมิใจ หากขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่ง หลายครั้งเราอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันอาจยิ่งใหญ่มหาศาลในใจใครหลายคนได้
“บทบาทเปลี่ยน แต่เป้าหมายชีวิตไม่เคยเปลี่ยน”
หนึ่งในเป้าหมายชีวิตและธุรกิจของเราไม่ว่าทำธุรกิจใดๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คือ การอยากท้าทายขีดจำกัดของตนเอง อยากทำให้สุด ให้รู้ว่า ในชีวิตหนึ่งของเรา จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมดีๆ ที่เกิดประโยชน์ทั้งต่อประโยชน์ส่วนตน และประโยชน์ส่วนรวมได้มากแค่ไหน และตั้งใจทำประโยชน์ให้ประเทศไทยไปตลอดชีวิต ให้สมกับโอกาสที่ได้รับมาจากผู้คนมากมายจนก้าวมาจนทุกวันนี้
สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจทุกท่าน ไม่ว่าอยู่ในธุรกิจใดๆ ขอให้เดินไปสู่เป้าหมายของตนอย่างสุดความสามารถ สามารถพิชิตได้ทั้งในสนามชีวิตและธุรกิจ ลุยให้เต็มที่ ด้วยเป้าหมายที่จะชนะ (Winning Attitude) เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าเราจะแพ้ ชนะ เสมอ แต่เมื่อเราได้ทำเต็มที่ ลงไปคลุกในสนามรบอย่างจริงจัง วันนึงเมื่อถอยออกมาไม่ว่าในฐานะใดๆ เราจะเห็นเส้นทางใหม่ๆ เสมอ ที่มันต่อยอดได้จากความทุ่มเทที่เราได้ทำ จนมันกลายเป็นทั้งความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ติดตัวเรา ที่ใครก็แย่งไปไม่ได้ และมีแต่เราเท่านั้น ที่รู้ว่าเราเรียนรู้อะไร จากสนามรบที่ผ่านมา และเราจะใช้บทเรียนที่มีค่า “พัฒนาและชนะในสนามชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ประมาท”
- Sometimes by losing a battle you find a new way to win the war -
บันทึกไว้เตือนใจตัวเอง
ด้วยความปรารถนาดี
บอม โอฬาร วีระนนท์
ปล.1: ขอบคุณพี่ติ๊ก Mamasof Ari พี่สาวสุดที่รัก ที่แนะนำมาในอดีต เป็นประสบการณ์หนักๆ ที่ยอดเยี่ยม
ปล.2: ไม่ต้องชวนผมเข้าธุรกิจเครือข่ายใดๆ นะครับ ตอนนี้ขอรบในสมรภูมิใหม่ๆ ที่อยากท้าทายในอีกหลายมิติของชีวิต แต่รักและปรารถนาดี ต่อทุกท่านเสมอ
Comments