“จะแก้ปัญหา ให้แก้ที่ความเชื่อ...
เอาธรรมมะมาใส่ใจคน คนจะเชื่อ เพราะธรรมมะไม่มีแพ้”
อีกการแบ่งปันประสบการณ์การสร้างธุรกิจ ที่ทำให้เหมือนบรรลุโสดาบันไปชั่วขณะจิต
“เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย” คำๆ นี้อาจคุ้นเคยในโฆษณายาแก้หวัด ลดไข้ “ทิฟฟี่” ที่คนไทยในยุคหนึ่งคุ้นเคยดี แต่ใครจะมีโอกาสได้ฟังเบื้องหลังการขยายอาณาจักรทิฟฟี่ จากตลาดยาไทยที่มี Market Size ในประเทศไทยกว่า 1.7 แสนล้านบาท เข้าสู่ตลาด CLMV ที่ปัจจุบัน “ไทยนครพัฒนา” ก้าวเข้าสู่ตลาดกัมพูชามาร่วม 30 ปี และมีประสบการณ์ล่ำค่ามาแบ่งปัน
“จากเด็กหนุ่มอายุ 28 ปี Scale ธุรกิจสู่กัมพูชา”
ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ หรือ พี่อ๊อด ทิฟฟี่ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด เล่าถึงอดีตด้วยรอยยิ้มว่า ในอายุ 28 ปีได้รับมอบหมายจากคุณพ่อ ในการให้ศึกษาลู่ทางในการขยายธุรกิจสู่ประเทศกัมพูชา ในยุคที่ยังไม่มีแม้กระทั่งไฟฟ้า และน้ำประปา ในวันนั้นเรามีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท จนวันนี้เราอยู่ที่กัมพูชามาเกือบ 30 ปีแล้ว
“ตั้งเป้าหมาย แต่ไม่กำหนดเวลาเป็นเงื่อนไขความสำเร็จ”
การทำธุรกิจ และการทำความดี เหมือนกันคือ ต้องมีเป้าหมาย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงื่อนเวลาในการเข้าสู่เป้าหมาย เช่นคุณพ่อผปมให้ไปขยายธุรกิจในกัมพูชา แต่ก็ไม่เคยบอกว่าต้องสำเร็จภายในกี่ปี ผมเชื่อว่าคนเราถ้าไม่ล้มเลิก และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ยังไงเราก็สำเร็จถึงเป้าหมายเช่นเดียวกัน แต่อาจจะช้าเร็วต่างกัน
“ทำธุรกิจ ต้องคิดว่า... ถ้ามันถึงที่สุด คุณแก้ได้รึเปล่า”
หลักสำคัญในการขยายธุรกิจ คือ ก่อนจะคิดเริ่มสร้าง หรือลงทุนในธุรกิจใดๆ ต้องคิดว่า ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายที่สุด เราแก้ได้รึไม่ ถ้าเกิดแล้วแก้ไม่ได้ อย่าทำ
“จากธุรกิจยา สู่ธุรกิจหลากหลาย”
ปัจจุบันธุรกิจของไทยนครพัฒนา ไม่ใช่มีแค่ “ทิฟฟี่” ยังครอบรวมถึงยาอีกหลายร้อยชนิด อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม สนามกอล์ฟ สถานีโทรทัศน์ ฯลฯ
“มรณานุสติ นำชีวิต... อย่าทำงานคั่งค้าง”
ผมทำงานทุกวันโดยคิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต อะไรทำได้ ต้องทำทันที ต้องไม่มีงานค้างไว้บนโต๊ะ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ตื่นมารึปล่าว การนำธรรมะมาใช้ในโลกธุรกิจทำให้เราเข้าใจเรื่องทางสายกลาง เราจะไม่มุ่งชนะเพียงธุรกิจ แต่จะต้องชนะให้ได้ทั้งสองโลก คือ “โลกปัจจุบัน” และ “โลกทางธรรมสู่นิพพาน” ซึ่งมันจะเปลี่ยนวิธีคิดและปฏิบัติเราไปอย่างยั่งยืน
“มุ่งสร้างบริษัท 2,500 ปี”
ผมตั้งเป้าหมายอยากให้บริษัทไทยนครพัฒนาของผมไม่ได้เป็นแค่บริษัท 100 ปี แค่อยากให้เป็นบริษัทที่มีอายุได้ 2,500 ปี จนถึงยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ถัดไปคือพระศรีอริยเมตไตรย นั่นคือความตั้งใจของผมที่จะดำเนินธุรกิจให้สืบทอดไปกับการดำรงพระพุทธศาสนา
“ใช้หลักสามัคคีธรรมในการบริหาร องค์กรไม่มีแตก”
หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าให้ไว้กว่า 2,500 ปีนั้น ผมยืนยันว่าเราสามารถนำมาใช้ในการบริหารธุรกิจได้เป็นอย่างดี หลายองค์กรธุรกิจปัจจุบันมีปัญหาแตกแยก ความต่างระหว่างรุ่น ระหว่างวัย ถ้าเราลองใช้หลักสามัคคีธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้รับรองว่าองค์กรเราจะไม่แตกแยก
“คุณภาพคน วิธีคิด ความทะเยอทะยาน”
คือ สิ่งที่คนไทยต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ผมเชื่อมั่นว่าประเทศไทย จะยังเป็นผู้นำในภูมิภาคไปอีกยาวนาน และคงหาประเทศใดรอบข้างแซงเราได้ยาก แต่ปัจจุบันถ้าเราไม่พัฒนามากกว่านี้ ผมเชื่อว่าคนรอบบ้าน แซงเราแน่ๆ การพัฒนาคนของเรา ทั้งวิธีคิด การตื่นตัวในการแข่งขัน และความทะเยอทะยาน จึงจะสามารถแข่งขันในระดับสากลได้
“แก้ปัญหา ต้องแก้ที่ใจ”
เรื่องใจเป็นเรื่องสำคัญ จะแก้ปัญหา ให้แก้ที่หัวใจ แก้ที่ความเชื่อ เราต้องปลูกฟังหลักธรรม เอาธรรมมะมาใส่ใจคน คนจะเชื่อ เพราะธรรมมะไม่มีแพ้
อีกหนึ่ง Session ทรงคุณค่าจากหลักสูตร 2morrow Scaler รุ่นที่ 4
บอม โอฬาร วีระนนท์
CEO and Co-Founder, DURIAN
Director & Co-Founder, 2morrowScale
#2morrowScaler #BeyondFrontier #รุ่น4ดีจริงจัง
#ประเทศไทยพัฒนาได้ถ้าร่วมใจกัน #ไทยทะยาน #ThailandTakeoff #BomOlarn #BomOlarn2019
Comments